24 ธันวาคม 2563 ดร.ศิวัช พงษ์เพียจันทร์” โฆษกศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) แถลงรายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 24 ธันวาคม 2563 ณ 07:00 น.พบว่าปริมาณ PM2.5 ในประเทศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคใต้ อากาศดีมาก โดยเฉพาะภาคเหนือ ตรวจวัด PM2.5 ได้ 15 – 38 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ตรวจวัดได้ 6 – 33 มคก./ลบ.ม. ส่วนภาคกลางและตะวันตก ตรวจวัดได้ 13 – 46 มคก./ลบ.ม .และภาคตะวันออก ตรวจวัดได้ 33 – 47 มคก./ลบ.ม.อย่างไรก็ตาม ยังมีบางพื้นที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนี้

• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดได้ 20 – 77 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐานใน จ.หนองคาย จ.ขอนแก่น และ จ.นครราชสีมา เนื่องจากตรวจพบจำนวนจุดความร้อนสะสมในพื้นที่เกษตรและชุมชน และริมทางหลวงบางส่วน
• กรุงเทพมหานครและปริมณฑล บางพื้นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ พบค่า PM2.5 อยู่ระหว่าง 34 – 57 มคก./ลบม. โดยส่วนใหญ่พบเกินเกณฑ์มาตรฐานบริเวณริมถนนที่มีสภาพการจราจรหนาแน่น ได้แก่ ริมถนนแยกท่าพระ เขตบางกอกใหญ่, ริมถนนดินแดง เขตดินแดง, ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง, ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม, ริมถนนกรุงเกษม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง, ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ, ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ, ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี และ ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน, รวมทั้ง จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ จ.สมุทรปราการ และ จ. สมุทรสาคร

ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา วันที่ 24 ธันวาคม 2563 ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง ได้รับอิทธิพลจากลมเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น มีหมอกในตอนเช้า และคาดว่าวันที่ 25 และ 27 จะมีฝนเล็กน้อย เกิดการผกผันกลับของอุณหภูมิ “inversion” ทำให้เพดานการลอยตัวของอากาศต่ำลง ฝุ่นละอองจะเริ่มมีการสะสมมากขึ้นในระยะนี้ สำหรับวันที่ 30 ธันวาคม 2563 จะพบบริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมตอนบนของไทย ทำให้ลมมีกำลังแรงขึ้น การสะสมของฝุ่นละอองจะเริ่มน้อยลง

ศกพ. ได้ประสานแจ้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งจังหวัดปริมณฑล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับการดำเนินงานเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ในการกำกับดูแลแหล่งกำเนิดอย่างเข้มงวด ระหว่างวันที่ 24-29 ธันวาคม 2563 ดังนี้

• เข้มงวดตรวจสอบตรวจจับรถควันดำ โดยเมื่อวานนี้ ( 23 ธันวาคม) กรมการขนส่งทางบกดำเนินการตรวจวัด 786 คัน แบ่งเป็นรถบรรทุก 686 คัน พบควันดำเกินค่ามาตรฐาน14 คัน และตรวจรถโดยสาร 100 คัน พบควันดำเกินค่ามาตรฐาน 2 คัน ซึ่งได้ออกคำสั่งห้ามใช้ไปแล้ว
• กำกับดูแลการระบายมลพิษจากสถานประกอบการ/อู่ซ่อมรถ และให้เร่งรัดระบายการจราจรในช่วงเวลาที่มีรถหนาแน่นโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน (พื้นที่สีส้ม และพื้นที่สีแดง)
• ตรวจสอบการระบายมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด
•  ให้มีการเฝ้าระวังและติดตามจำนวนจุดความร้อนในพื้นที่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด และขอความร่วมมืองดการเผาในกรุงเทพมหานคร จังหวัดปริมณฑล นครนายกและพระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชน พิจารณาใช้ Work From Home ตามความเหมาะสมต่อสถานการณ์ รวมทั้ง เพื่อบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ ขอให้พี่น้องประชาชนดูแลสุขภาพสวมใส่หน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันตัวเองเมื่อออกนอกบ้าน หากจอดรถยนต์ขอความกรุณาดับเครื่องยนต์ และขอให้หมั่นบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้ก่อควันดำ และขอความอนุเคราะห์กระทรวงศึกษาธิการ แจ้งหน่วยงานและสถานศึกษาในกำกับดูแล ดำเนินมาตรการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียน ในกรณีที่ฝุ่นละอองสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานต่อเนื่องหลายวัน

พี่น้องประชาชนสามารถเลือกดูข้อมูลผลการตรวจวัดได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง และแบบค่าเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมง โดยท่านสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศได้จากเว็บไซต์ Air4Thai.pcd.go.th และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKKในมือถือ Smart Phone หรือท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์อากาศผ่านทาง Facebook Fanpage“ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)”สุดท้ายนี้ ผมขอฝากทุกท่านว่า “ลดฝุ่นควัน ช่วยกันแก้ แค่ไม่เผา”