pcd.go.th
ขนาดอักษร |
ปลัด ทส. สั่งเข้มแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละออง พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละออง ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ผ่านระบบ VDO CONFERENCE โดยมีคณะผู้บริหาร ทส. หัวหน้าส่วนราชการในสังกัด ทส. ผู้แทนจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 17 จังหวัดภาคเหนือ ผู้แทนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่กำกับดูแลพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากขณะนี้คุณภาพอากาศของพื้นที่ภาคเหนือ อยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่

นายจตุพร เปิดเผยว่า ทส. ได้มอบนโยบายการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละออง ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานให้หน่วยงานภายใต้สังกัด ทส. และได้กำชับหน่วยงานในพื้นที่ให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาปัญหาไฟป่าและฝุ่นละออง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยกำหนดกรอบการทำงานให้มีความเข้มข้นขึ้น นำแผนการดำเนินงานที่มีอยู่มาซักซ้อมและวิเคราะห์จุดอ่อน ทั้งการตั้งศูนย์ส่วนหน้าซึ่งจะลงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีการตั้งสถานีดับไฟป่าชั่วคราวในพื้นที่ 3 จังหวัด ลำพูน ตาก และแม่ฮ่อนสอน ซึ่งเป็นจุดที่เกิดสถานการณ์ไฟป่าค่อนข้างสูง ส่วนในเรื่องของพื้นที่ป่าจะมีความซ้อนกัน เพราะฉะนั้นการทำงานจะเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับผู้นำท้องถิ่นเพื่อให้ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน เพิ่มความเข้มข้นในเรื่องการสร้างการรับรู้ และการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดกับผู้ที่เข้าไปเผาป่า ในด้านสรรพกำลังได้รับความร่วมมือจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ ในส่วนของอุปกรณ์เครื่องมือได้รับความร่วมมือจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งมีเฮลิคอปเตอร์มาร่วมดับไฟป่า ขณะเดียวกันก็ได้มีการสำรวจเครื่องมือระดับจังหวัด ระดับอำเภอ เพื่อที่จะได้มีการสนธิกำลังคนไปทำงาน

นายจตุพร กล่าวต่อว่า หน่วยงานภาครัฐควรมีการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานให้มากขึ้น เพื่อชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงสามารถรับมือและดูแลตัวเอง ช่วงเกิดเหตุการณ์ไม่ควรอยู่ในพื้นที่ที่โล่งแจ้ง ทั้งนี้อยากให้ประชาชนได้ทราบว่าหน่วยงานได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษได้หารือและเฝ้าระวังเรื่องหมอกควันข้ามแดน สำหรับโครงการชิงเก็บได้ดำเนินการทะลุเป้าหมายทุกจังหวัด แต่ยังมีจุดความร้อนเกิดขึ้นอยู่ ดังนั้น ทส. จึงเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับทางจังหวัดบูรณาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะมีการติดตามการดำเนินงานอย่างเต็มที่และต่อเนื่องต่อไป

Skip to content