วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทย โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำ ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย หรือแม้แต่ทางภาคอีสานที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน โดยท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่านสุชาติ ชมกลิ่น ได้ให้ความสำคัญที่จะใช้ทุกเวทีระหว่างประเทศ ทั้งที่กระทรวงทรัพยากรฯ เป็นผู้แทน และที่กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทน ในการหยิบยกประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อหาแนวทางการแก้ไขร่วมกับกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งรวมถึงประเทศจีนด้วย แต่การประชุมระหว่างประเทศนั้นมีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับผู้ประสานงาน ระดับเจ้าหน้าที่ ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ไปจนถึงระดับรัฐมนตรี ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรฯ ให้ความสำคัญกับทุกเวทีและส่งเจ้าหน้าที่ตามระดับการประชุมเข้าร่วมตลอด อย่างเช่น การประชุมเวทีความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศอาเซียนกับจีน เมื่อวันที่ 21-22 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมาที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นเพียงการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ไม่ใช่การประชุมระดับรัฐมนตรี กระทรวงฯ จึงได้มอบหมายให้ท่านรองปลัดกระทรวงฯ (นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ) เข้าร่วมการประชุม และได้มีการยกประเด็นปัญหามลพิษทางน้ำ โดยเฉพาะในเม่น้ำโขง หารือต่อที่ประชุมด้วย
นายสุรินทร์ กล่าวว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพแหล่งน้ำในแหล่งน้ำผิวดิน ครั้งที่ 1/2568 ที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ท่านรองนายกฯ สุชาติ ก็ได้เน้นย้ำให้คณะทำงานประสานความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำผิวดิน ที่มีท่านรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานคณะทำงาน เน้นการเจรจาในทุกระดับเพื่อเร่งสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหากับประเทศเมียนมาร์ รวมถึงการใช้กลไกความร่วมมือคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง หรือ MRC คณะทำงานร่วมตามกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง หรือ MLC และคณะกรรมการลุ่มน้ำโขงเหนือ ซึ่งมี สทนช. (สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ) เป็นผู้ประสานงานหลัก เป็นเวทีสำคัญในการเร่งพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้มีหลักสากลในการจัดการมลพิษก่อนปล่อยน้ำออกจากพื้นที่ทำเหมือง เนื่องจากปัจจุบันการทำเหมืองในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในลุ่มแม่น้ำโขงมีการขยายตัวอย่างมาก และผลกระทบที่เกิดขึ้นจะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับพี่น้องประชาชนคนไทย แต่จะกระทบทั้งอนุภูมิภาค ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาเป็นอย่างยิ่ง และได้มีการผลักดันกลไกการแก้ไขปัญหาผ่านเวทีระหว่างประเทศในทุกระดับมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
สำหรับการตรวจพบสารหนูบางจังหวัดในภาคอีสาน ก็มาจากตั้งแต่ทราบเรื่องสารหนูในแม่น้ำกกและแม่น้ำอื่น คพ. จึงได้พิจารณาดำเนินการตรวจปูพรมในลำน้ำที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้สั่งการให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ที่ 9 (สคพ. 9) รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดเลย หนองคาย และบึงกาฬ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ที่ 12 (สคพ.12 ) รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี เพิ่มพารามิเตอร์ “สารหนู” ในการติดตามคุณภาพน้ำ ซึ่งผลการตรวจสอบ พบสารหนูในพื้นที่ สคพ.9 แต่ไม่พบในพื้นที่ สคพ. 12 คพ. กำลังเร่งหาสาหตุว่ามาจากธรรมชาติ กิจกรรมภายในประเทศ หรือจากมลพิษข้ามแดน ซึ่งเมื่อทราบสาเหตุที่แท้จริง ก็จะได้เร่งหาทางแก้ไขป้องกัน รวมถึงดำเนินการในมาตรการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมทั้งระบบต่อไป นายสุรินทร์ กล่าว