pcd.go.th
ขนาดอักษร |
คพ. เตรียมแจ้งความดำเนินคดี กรณีสารเคมีรั่วไหลจากโรงงานของบริษัท ไมด้า วัน จำกัด

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.)กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (9 ต.ค. 63) คพ. ได้ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนกรณีสารเคมีรั่วไหลจากโรงงานของบริษัท ไมด้า วัน จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า โรงงานยกเลิกการประกอบกิจการแล้ว แต่ยังมีการกักเก็บของเสียที่เป็นของเหลวภายในโรงงาน มีถังเก็บของเสียจำนวน 11 ถัง ข้อต่อถังที่ 1 และ 2 ชำรุดทำให้มีของเหลวรั่วไหลออกจากถัง ลักษณะสีดำและมีกลิ่นเหม็นรุนแรงภายในบริเวณโรงงาน ในเบื้องต้นเทศบาลตำบลท่าข้ามได้ซ่อมแซมข้อต่อของแทงค์เรียบร้อยแล้ว และนำกระสอบทรายมาปิดกั้น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของของเสียออกสู่ภายนอกโรงงาน แต่พบว่าบริเวณรางระบายน้ำซึ่งเป็นรางดินที่อยู่ติดกับโรงงานเชื่อมต่อกับคลองพานทอง น้ำภายในรางดังกล่าวมีสีดำและมีกลิ่นเหม็นคล้ายกับของเสียที่รั่วไหลออกจากถังเก็บของเสีย จากการตรวจสอบมลพิษเบื้องต้นมีค่าความเป็นด่างสูง มีความเค็ม และค่าการนำไฟฟ้าสูง ส่วนน้ำในคลองพานทองยังคงมีลักษณะเป็นปกติ คพ. ได้เก็บตัวอย่างน้ำจากบริเวณรางดิน และในคลองพานทอง เพื่อตรวจพิสูจน์การปนเปื้อนของน้ำเสีย

ในการดำเนินการของ คพ. นั้น ได้ประสานเทศบาลตำบลท่าข้ามให้นำกระสอบทรายมาปิดรางดินระบายน้ำดังกล่าวไม่ให้ไหลลงคลองพานทอง ซึ่งเทศบาลฯ จะดำเนินการในวันที่ 10 ตุลาคม 2563 และ คพ. เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของหรือผู้ครอบครองพื้นที่กักเก็บถังของเสียดังกล่าว ว่าเป็นเหตุให้เกิดของเสียรั่วไหลลงรางดินที่เชื่อมต่อกับคลองพานทอง เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 พร้อมทั้งตรวจพิสูจน์สารเคมีที่กักเก็บอยู่ว่าเป็นวัตถุอันตรายจำพวก 2 หรือจำพวก 3 หรือไม่ หากใช่เจ้าของหรือผู้ครอบครองก็จะมีความผิดฐานครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายอรรถพล กล่าวว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. และท่านจตุพร บุรุษพัฒน์ ปกท.ทส. ได้ให้นโยบายให้ติดตามตรวจสอบแหล่งที่มีการเก็บของเสียหรือสารเคมีหรือปล่อยมลพิษที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น ให้จัดลำดับความสำคัญของปัญหา ทั้งในด้านผลกระทบและเชิงพื้นที่ ที่ คพ. ต้องรู้ และเข้าไปจัดการทั้งในด้านการบริหาร และการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อปกป้องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อๆไป

Skip to content